ถึงจะเป็นรถขายดีในต่างประเทศ แต่ตลาดในบ้านเราคงไม่ใช่เรื่องง่าย  ซึ่งในเจเนเรชั่นนี้ All New Nissan X-Trail  ได้พลิกโฉมด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวอย่างมีสไตล์ ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม ภายในปรับแต่งให้ทันสมัยสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้เต็มที่ พร้อมขุมพลังเครื่องขนาด 2.5 ลิตรที่ให้กำลัง 171 แรงม้า ทำให้สมรรถนะการขับขี่สามารถตอบสนองได้อย่างที่ต้องการและช่วงล่างที่รองรับได้มั่นใจ 
รูปทรงเท่อย่างมีสไตล์

     รูปทรงของเอ็กเทรลใหม่ดูสะดุดตาด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ไฟหน้าทรงเหลี่ยมแบบ LED  โปรเจคเตอร์  เด่นด้วยไฟเดย์ไทม์แบบ LED  ทำให้ดูอินเทรนด์ยิ่งขึ้น กับกระจังหน้าโครเมี่ยมรูปทรง V ในสไตล์ของนิสสัน  พร้อมเสา D และซุ้มล้อใหญ่ที่ผสานความโค้งมนของเส้นสายด้านข้างจากไฟหน้าจรดยังไฟท้าย 



    ขณะที่ด้านข้างล้ออัลลอยแบบสปอร์ตในแบบไซส์ใหญ่ ขนาด 18 นิ้ว กับยางขนาด 225/60 R18  และเพิ่มความหรูด้วยขอบโครเมี่ยมรอบกระจก  เช่นเดียวกับหลังคาที่มีซันรูฟแบบพาโนรามิค พร้อมติดราวจับหลังคามาให้ด้วย และประตูด้านหลังเปิดกว้างได้มากถึง 80 องศา ส่วนมุมมองด้านท้ายยังมีความเป็นเหลี่ยมสันอยู่บ้าง และไฟท้ายออกแบบใหม่เพิ่มโครเมี่ยมให้ดูทันสมัยมากขึ้น  แถมเท่ด้วยสปอยเลอร์หลังแบบมีไฟเบรคดวงที่ 3 
 

ภายในกว้างทันสมัยนั่งสบาย

     ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่ให้ทันสมัย ทั้งการออกแบบและอุปกรณ์ภายในที่มอบความสะดวกสบายและด้วยพื้นที่ที่ได้ออกแบบและพัฒนาให้มีเนื้อที่มากขึ้น กว้างขึ้นในทุกมิติ โดยเบาะนั่งคนขับแบบ Spinal support ที่ออกแบบพิเศษให้รองรับแนวกระดูกสันหลัง พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางและที่นั่งในรูปแบบเธียเตอร์สไตล์ 3 แถว เบาะที่นั่งด้านหลังกว้างขวางนั่งสบาย 



     ส่วนหน้าจอแสดงผล 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว พร้อมแสดงผลข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการขับขี่ รวมทั้งการทำงานของระบบ Advanced Chassis Control ในแบบเรียลไทม์ และแสดงการทำงานของระบบขับเคลื่อนในรุ่น 4WD พร้อมพวงมาลัยสไตล์ 3 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่น ที่สามารถควบคุมความเร็วอัตโนมัติ กับเครื่องเสียง โดยที่ระบบเครื่องเสียงสามารถเล่น CD, MP3, AUX, USB กับลำโพง 6 ตัว และเสริมด้วยระบบ  Nissan Connect สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบ Dual zone ปรับแยกอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา  
    
      
                          
ตอบสนองทุกการขับขี่

     สำหรับขุมพลังเป็นเครื่องเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร DOHC 16 วาล์ว Twin C-VTC ให้กำลังสูงสุดที่ 171แรงม้ากับ แรงบิดสูงสุดที่ 233 นิวตันเมตร  พร้อมกับเกียร์ X-TRONIC CVT รุ่นใหม่พร้อม ระบบ manual mode 7 สปีด ซึ่งได้เพิ่มช่วงอัตราทดเกียร์เพื่อช่วยให้เสริมประสิทธิภาพอัตราเร่งและประหยัดน้ำมันมากขึ้น


     ในการทดสอบรถ All New Nissan X-Trail 2.5 L  ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และออพชั่นต่าง ๆ ครบครัน  โดยเฉพาะ Panoramic Sunroof   ที่มาเสริมให้ตัวรถมีระดับมากยิ่งขึ้น กับกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศาที่ใช้งานได้จริง พร้อมภายในที่สามารถสัมผัสกับหน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ 3 มิติ ขนาด 5 นิ้วได้อย่างดี  แถมประตูท้ายยังเปิด-ปิด อัตโนมัติ     

    และครั้งนี้เป็นการยืมรถมาทดสอบ ซึ่งได้เลือกใช้เส้นทางแบบไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เพื่อจะได้เดินทางไปแบบเช้าเย็นกลับ และที่จังหวัดนครนายก จึงเป็นจุดหมายปลายทาง ด้วยระยะทางไป-กลับประมาณ  300 กม. ทำให้ได้รับรู้ถึงสมรรถนะของรถรุ่นนี้ได้มากพอ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในเมืองที่ให้คล่องตัวได้ดี หรือจะใช้เดินทางขับเที่ยวก็ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่น่าพอใจ  



    ในช่วงแรกจะขับใช้งานในกรุงเทพฯ บอกได้เลยกำลังที่มีอยู่ในรุ่น 2.5 ลิตรนั้นมีให้ใช้งานได้เต็มที่ โดยเฉพาะถนนโล่ง ๆ ทำให้รับรู้ถึงการขับขี่ที่ลื่นไหล เพราะอัตราเร่งตอบสนองได้ทันที เร่งแซงได้สบาย ๆ  และเวลาเจอสภาพจราจรติดขัดก็หายห่วงจะขับแทรกซ้าย-ขวาสามารถทำได้คล่องตัวกะระยะได้ง่าย เพราะตัวรถไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก  

     และเมื่อต้องขับไปเที่ยวทำให้มั่นใจได้เลยว่าไปไหนไปกัน เพราะด้วยพละกำลังของเครื่องยนต์ที่มีอยู่ 171 แรงม้านั้น ทำให้การขับขี่สนุกยิ่งขึ้น ซึ่งรับรู้ได้ตั้งแต่ช่วงออกตัวจัดว่าใช้ได้ เนื่องจากแรงบิดที่ให้มา 233 นิวตันเมตรเพียงพอที่ลากน้ำหนักรถ 1,683 กก. ได้ไม่ยาก และสามารถเพิ่มความเร็วได้ต่อเนื่อง  


 
   ขณะเดียวกันการทำงานของเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT  ที่ขึ้นชื่อของนิสสัน สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละจังหวะได้อย่างนุ่มนวล โดยช่วงต้น ๆ จะลากรอบราว 2,000 กว่ารอบจะช่วยให้ลื่นไหล  จากนั้นจะลากเพิ่มราว 3,000 รอบยิ่งสามารถเรียกกำลังออกมาได้ไวขึ้นทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้นไปที่ 100 กม./ชม.ที่ 1,750 รอบต่อนาทีได้ทันที  

     ส่วนโหมดแมนนวนที่ตำแหน่งเกียร์มีให้เล่นถึง 7 สปีด โดยสามารถเปลี่ยนเกียร์ด้วยการขยับด้ามเกียร์ขึ้น-ลง อาจจะใช้งานไม่สะดวกเท่ากับแพดเดิ้ลชิฟ แต่รุ่นนี้ไม่มีให้มาเลยต้องขยับด้ามเกียร์แทน ซึ่งให้อารมณ์ในการขับไปอีกแบบ โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งแซงที่สามารถเชนเกียร์ลงมาจะช่วยเพิ่มกำลังในการเร่งแซงจาก 100-120 กม./ชม.ที่ 2,100 รอบต่อนาที ได้อย่างสบาย ๆ  

    มาถึงระบบช่วงล่างที่ด้านหน้าเป็นแบบ แม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงกับด้านหลังในแบบ มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ที่เซ็ทมาได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะเวลาใช้ความเร็วบนเส้นทางตรงมั่นใจได้ว่าทรงตัวได้ดีให้ความรู้สึกนิ่งขณะที่ขับอยู่ประมาณ 140 กม./ชม.หรือจะเร็วกว่านี้ก็ไม่ใช่ปัญหา พร้อมกับให้ความนุ่มนวลทำให้นั่งสบายตลอดการเดินทางและเมื่อผ่านถนนไม่ดีก็ไม่กระเทือนเท่าไหร่ เพราะมีระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระมาให้ด้วย 



     เช่นเดียวกับเวลาเจอกับทางโค้ง ซึ่งมีช่วงล่างที่รองรับได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นโค้งกว้าง ๆ ที่สามารถทำความเร็วเข้าได้เลย หรือโค้งแคบก็ผ่านได้ไม่ยาก พร้อมกับพวงมาลัยที่ให้น้ำหนักเหมาะมือสามารถเปลี่ยนทิศทางได้แม่นยำ  และที่สำคัญยังมีระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง ช่วยป้องกันการหลุดโค้ง  (ATC) มาช่วยทำให้ขับง่ายยิ่งขึ้น 

     นอกจากนี้ยังมีพอใจกับระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติเวลาที่ถอนคันเร่ง พร้อมกับระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน  ช่วยป้องกันมิให้ตัวรถไหลขณะออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)  กับระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ช่วยป้องกันมิให้รถไหล โดยใช้กำลังเครื่องยนต์หน่วงเพื่อชะลอความเร็วให้ต่ำลงโดยไม่ต้องเหยียบแป้นเบรก (HDC )



     สรุปโดยรวมต้องยอมรับว่านิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ ไม่ใช่แค่มีรูปโฉมที่มีสไตล์มากขึ้น ขณะเดียวกันภายในยังนั่งสบายกว้างขวางลงตัว และอุปกรณ์ใช้งานง่าย พร้อมขุมพลัง 2.5 ลิตรที่ใครได้ขับรับรองว่าต้องพอใจกับอัตราเร่งที่ตอบสนองออกมาได้เต็มที่ ซึ่งในรุ่น 2.5 V 4 WD ราคา 1,551,000 บาท จัดว่าคุ้มค่าพอตัว